Terms of Service

Last updated: January 20, 2023

ข้อ 0 อรัมภบท ข้อกำหนดทั่วไป และนิยามศัพท์

ในข้อตกลงนี้ ผู้ให้บริการ หมายถึง บริษัท พิกเซ็ลลาร์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ รับจ้าง ออกแบบ และรังสรรค์ผลงานศิลปะ การขาย แจกและจัดจำหน่ายสินค้าดิจิตัลและงานศิลปะดิจิตัล รวมทั้งการรับจ้าง ออกแบบ และรังสรรค์โปรแกรมคอมพิวเตอร์และซอร์ฟแวร์

ผู้รับบริการ หมายถึง ลูกค้า หรือผู้ว่าจ้างงาน ผู้ซึ่งรับบริการจาก บริษัท พิกเซ็ลลาร์ จำกัด

ผลงาน หมายถึง สื่อสิ่งพิมพ์ ภาพ เสียง วิดีทัศน์ ภาพเคลื่อนไหว โปรแกรมคอมพิวเตอร์ รหัสต้นทาง (source code) ชุดคำสั่ง และสื่ออื่นใดที่ บริษัท พิกเซ็ลลาร์ จำกัด ได้รังสรรค์ ทั้งที่ได้รังสรรค์ขึ้นตามคำสั่งของผู้รับบริการหรือไม่ก็ตาม

ผู้รังสรรค์ผลงาน หมายถึง ผู้ผลิต ออกแบบ ผลงาน ซึ่งเป็นคู่สัญญาจ้างทำงานกับผู้ให้บริการ โดยผู้รังสรรค์ผลงานอาจเป็นผู้ให้บริการเองก็ได้

หากข้อกำหนดหรือเนื้อหาใดในเงื่อนไขการให้บริการนี้ มีข้อความใดซึ่งสามารถนำไปตีความให้ผิดกฎหมาย หรือขัดแย้งต่อบทบัญญัติของกฎหมาย หรือไม่สามารถใช้บังคับได้ในเขตอำนาจของศาลใด หรือเป็นข้อบังคับที่ขัดต่อกฎหมายภายใต้คำสั่งศาล ให้พิจารณาส่วนของข้อกำหนดนั้นแยกออกจากข้อกำหนดนี้ และไม่ส่งผลต่อความสมบูรณ์ของข้อกำหนดนี้ในส่วนที่เหลือ

ผู้รับบริการต้องไม่มอบหมาย ให้สิทธิการใช้งานต่อ หรือโอนสิทธิ์ที่ได้รับมอบ ให้แก่ผู้รับบริการนี้ให้แก่ผู้อื่น ผู้ใด หรือทำสัญญาช่วงข้อผูกพันใด ๆ การรับบริการ การให้บริการ หรือความสัมพันธ์ทางกฎหมาย

เมื่อผู้รับบริการได้ติดต่อรับบริการจาก บริษัท พิกเซ็ลลาร์ จำกัด ผ่านทางช่องทางต่าง ๆ ที่บริษัทฯ ได้เปิดให้บริการไว้ ให้ถือว่าผู้รับบริการได้ตกลงยอมรับเงื่อนไขการให้บริการของบริษัทฯ นี้

เงื่อนไขการให้บริการนี้เป็นข้อตกลงระหว่างผู้ให้บริการซึ่งก็คือ บริษัท พิกเซ็ลลาร์ จำกัด และผู้รับบริการจาก บริษัท พิกเซ็ลลาร์ จำกัด ซึ่งมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ช่องทางที่ให้บริการ

  1. ช่องทางร้านค้าบนเว็บไซต์ (https://pixelar.co.th)
  2. ช่องทางเฟซบุคเพจ PIXELAR (https://www.facebook.com/pixelarcoltd)
  3. ช่องทาง Discord PIXELAR (https://pixelar.co.th/discord)
  4. ช่องทางอื่นใดที่ผู้รับบริการติดต่อเพื่อใช้บริการกับผู้ให้บริการโดยตรง ทั้งนี้ต้องไม่ใช่วิธีการติดต่อผ่านบุคคลอื่น หรือติดต่อหาคู่สัญญาของผู้ให้บริการโดยตรง

ผู้รับบริการที่รับบริการนอกเหนือจากช่องทางเหล่านี้ จะไม่ถือเป็นการรับบริการตามตามเงื่อนไขนี้ และ จะไม่ได้รับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขการให้บริการนี้ เว้นแต่ได้ตกลงกันไว้ในการให้บริการและรับบริการภายใต้เงื่อนไขนี้

ข้อ 2 ขั้นตอนการให้ และ/หรือ รับบริการ

  1. ผู้รับบริการต้องสั่งผลิตผลงานหรือสั่งให้ออกแบบผลงานผ่านช่องทางในข้อ (1)
  2. ผู้รับบริการต้องชี้แจงความต้องการ วิธีการผลิต รูปแบบ จำนวน เนื้อหา ขั้นตอน ตัวอย่างเทียบเคียงของผลงานไว้ให้ละเอียด หากในส่วนของเนื้อหา หรือรายละเอียดใดที่ไม่ได้ชี้แจงไว้โดยละเอียดจำเป็นต้องใช้ความสร้างสรรค์ของผู้ให้บริการเติมเต็ม หรือรังสรรค์ขึ้นเพื่อเติมเต็ม ผู้รับบริการจะชี้แจงให้แก้ไขผลงานนั้นเพิ่มเติมตามที่ผู้รับบริการต้องการไม่ได้
    ทั้งนี้ผู้ให้บริการอาจแก้ไขให้ผู้รับบริการด้วยการคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหรือไม่ก็ได้ อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากผู้รับบริการได้ชี้แจงเนื้อหาและรายละเอียดที่เกี่ยวกับผลงานตามข้อ (2a) ไว้เรียบร้อยแล้วนั้น ผู้ให้บริการจะประเมินราคาและค่าใช้จ่ายในการผลิต และ/หรือ ออกแบบผลงาน ตามที่ผู้รับบริการได้สั่งผลิต หรือสั่งให้ออกแบบไว้ตามข้อ (2a)
    ผู้รับบริการจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องชี้แจงงบประมาณที่มีสำหรับผลงานที่ตกลงจะสั่งให้ผู้ให้บริการผลิต และ/หรือ ออกแบบให้ ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ให้บริการปรับและออกแบบผลงานนั้นตามที่ผู้รับบริการมีความพร้อม และเหมาะสมกับเป้าหมายที่ต้องการของผู้รับบริการ
  3. เมื่อผู้รับบริการได้รับรายการประเมินราคาจากผู้ให้บริการตามข้อ (2c) แล้วนั้น ผู้รับบริการสามารถปรับรายละเอียดการสั่งผลิต และ/หรือ ออกแบบผลงาน เพื่อปรับลด ค่าใช้จ่ายเพื่อรับการประเมินราคาใหม่จากผู้ให้บริการ
  4. ผู้รับบริการสามารถดำเนินตามขั้นตอน b - c ได้หลายครั้งจนกว่าจะพึงพอใจในราคาหรือรายละเอียดที่ต้องการ ทั้งนี้ ผู้รับบริการสามารถปรับรายการสั่งเพื่อรับการประเมินเพื่อลดค่าใช้จ่ายได้ไม่เกิน 3 ครั้ง ในครั้งที่ 4 เป็นต้นไปผู้ให้บริการอาจคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เป็นค่าประเมินราคา ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายนั้นจะไม่เกินร้อยละ 5 ของราคาประเมินการผลิต และ/หรือ ออกแบบผลงาน
  5. เมื่อผู้รับบริการตอบตกลงหรือแสดงเจตจำนงค์ยืนยันรายการประเมินราคาแล้วนั้น ผู้รับบริการจะไม่สามารถขอแก้ไขรายละเอียดการสั่งผลิต และ/หรือ ออกแบบผลงานได้ ทั้งนี้ผู้ให้บริการอาจอนุญาตให้มีการแก้ไขรายการสั่งผลิตสั่งผลิต และ/หรือ ออกแบบผลงาน เป็นรายกรณีไป
  6. ผู้ให้บริการจะแจ้งลำดับงานและระยะเวลาในการผลิต และ/หรือ ออกแบบผลงานแก่ผู้รับบริการ ในขั้นตอนนี้ผู้รับบริการจะได้รับแจ้งให้ชำระเงินทั้งหมดหรือบางส่วนตามข้อ (6) เมื่อผู้ให้บริการได้รับชำระเงินแม้เพียงบางส่วนตรงตามที่ได้ระบุไว้ในข้อ (6) แล้วนั้น ให้ถือว่าผู้รับบริการ และผู้ให้บริการ ได้ตกลงให้และรับบริการแล้ว
  7. เมื่อผู้ให้บริการได้เริ่มงานหรือพร้อมที่จะเริ่มผลิต และ/ออกแบบ ผลงานของผู้รับบริการแล้วนั้น ผู้ให้บริการจะแจ้งให้ผู้รับบริการทราบ ทั้งนี้หากไม่สามารถติดต่อผู้รับบริการได้ ผู้ให้บริการอาจเริ่มหรือไม่เริ่มผลิตผลงาน หรืออาจข้ามลำดับงานของผู้รับบริการก็ได้
  8. ผู้ให้บริการอาจแจ้ง หรือไม่แจ้งพัฒนาการ หรือความเป็นไปของการผลิต และ/หรือ ออกแบบผลงานของผู้รับบริการระหว่างที่พัฒนาหรือผลิต และ/หรือ ออกแบบผลงานของผู้รับบริการก็ได้ แต่เมื่อมีการทวงถามของผู้รับบริการ ผู้ให้บริการอาจแจ้ง พัฒนาการ หรือความเป็นไปของการผลิต และ/หรือ ออกแบบผลงานของผู้รับบริการ ให้ผู้รับบริการทราบตามความเป็นจริงก็ได้
  9. เมื่อผู้รับบริการได้รับแจ้งว่าผลงานที่ผู้รับบริการได้สั่งไว้นั้นเสร็จสิ้นแล้วนั้น ให้ถือว่าผู้รับบริการได้รับแจ้งให้ตรวจสอบตัวอย่างผลงานดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้ผู้รับบริการมีหน้าที่จะต้องตรวจสอบตัวอย่างผลงานดังกล่าวภายใน 14 วันนับแต่ได้รับแจ้งดังกล่าว ในขั้นตอนนี้ผู้รับบริการจะต้องแจ้งภายในระยะเวลาดังกล่าวถึงปัญหาหรือความผิดพลาดของผู้ให้บริการในการผลิต และ/หรือ ออกแบบผลงาน ทั้งนี้ผู้ให้บริการอาจขยายเวลาตรวจสอบและเวลาการแจ้งปัญหาดังกล่าวให้ผู้ให้บริการหรือตามความเหมาะสมหรือไม่ก็ได้
  10. หากพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ให้ถือว่าผู้รับบริการไม่มีข้อกังขาใด ๆ เกี่ยวกับการแก้ไขหรือปรับปรุงผลงาน ให้ผู้รับบริการดำเนินการชำระเงินส่วนที่เหลือในกรณีที่ได้ชำระเพียงมัดจำ และรับมอบผลงาน หรือรับมอบผลงานในกรณีที่ได้ชำระเงินทั้งหมดไว้แล้ว

ข้อ 3 ลิขสิทธิ์ กรรมสิทธิ์เหนือผลงาน และการนำผลงานไปใช้

  1. ลิขสิทธิ์และกรรมสิทธิ์ของผลงาน
    1. ลิขสิทธิ์และกรรมสิทธิ์ของผลงานที่ผู้รับบริการได้สั่งผลิต และ/หรือ ออกแบบผลงานตามข้อ (1) นั้น ให้เป็นลิขสิทธิ์และกรรมสิทธิ์ของผู้ให้บริการ แต่เพียงผู้เดียว ทั้งนี้ผู้รับบริการจะกล่าวอ้างถึงกรรมสิทธิ์หรือลิขสิทธิ์ของตนเหนือผลงานดังกล่าวในภายหลังไม่ได้ เว้นแต่จะมีข้อตกลงเกี่ยวกับลิขสิทธิ์และกรรมสิทธิ์ของผลงานไว้เป็นอย่างอื่น
    2. ผู้รับบริการอาจเลือกสิทธิ์ในการใช้งาน (Usage Right) ตามประเภทของสัญญาอนุญาตของผู้รับบริการได้ดังต่อไปนี้
      1. การนำไปใช้ส่วนตัว (Personal Use) หมายถึง ผู้รับบริการสามารถนำผลงาน ไปผลิตซ้ำ เพื่อสะสม เก็บไว้ใช้ส่วนตัว นำไปผลิตใช้งานส่วนตัว หรือใช้เปิดเผยต่อสาธารณะเพื่อประโยชน์ที่ไม่ใช่เพื่อการพาณิชย์ ทั้งนี้จะต้องไม่เป็นการนำไปแจกจ่ายต่อสาธารณะ หรือให้บุคคลอื่นใดนำผลงานไปใช้ในสิทธิ์ลักษณะเดียวกันนี้
      2. การนำไปใช้เชิงพาณิชย์ก่อให้เกิดรายได้ทางอ้อม (Commercial Use For Indirect Profit) คือ ผู้รับบริการสามารถนำไปใช้เพื่อประกอบโฆษณา หรือประกอบการนำเสนอผลงานของตน ผู้รับบริการสามารถนำไปสามารถนำผลงานไปแจกจ่าย หรือประกอบการสร้างรายได้อื่นใดที่ผู้รับบริการต้องการ แต่ต้องไม่เป็นไปเพื่อการสร้างรายได้โดยตรงจากผลงานที่ผู้ให้บริการได้รังสรรค์ขึ้น
      3. การนำไปใช้เชิงพาณิชย์ก่อให้เกิดรายได้ทางตรง (Commercial Use For Direct Profit) คือ ผู้รับบริการสามารถนำผลงานไปใช้เพื่อจำหน่ายต่อ หรือผลิตซ้ำเพื่อจำหน่ายต่อ หรือนำไปใช้เพื่อสร้างรายได้โดยตรงจากผลงานที่ผู้ให้บริการได้รังสรรค์ขึ้น
    3. ข้อปฏิบัติเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ สัญญาอนุญาต และกรรมสิทธิ์ของผลงาน ผู้รับบริการต้องปฏิบัติตามข้อ 11

ข้อ 4 ข้อสงวนสิทธิ์ในการจัดลำดับการให้บริการ

  1. การจัดลำดับการให้บริการเป็นสิทธิ์ของผู้ให้บริการ ซึ่งผู้ให้บริการมีหน้าที่จัดลำดับผู้รับบริการตามลำดับการยืนยันรายการจ้างผลิต และ/หรือ ออกแบบผลงาน และตามลำดับการว่างงานของผู้รังสรรค์ผลงานซึ่งเป็นคู่สัญญากับผู้ให้บริการ ทั้งนี้ผู้ให้บริการอาจจัดลำดับตามที่ผู้ให้บริการเห็นว่าเหมาะสมต่อการทำงานและประโยชน์ในการดำเนินการอย่างไรก็ได้
  2. การจัดลำดับการให้บริการอาจจัดขึ้นและแจ้งให้ผู้รับบริการทราบหรือไม่ก็ได้ ทั้งนี้ผู้ให้บริการจำเป็นต้องแจ้งให้ผู้รับบริการทราบถึงระยะเวลาโดยประมาณที่ผู้รับบริการจะถึงลำดับการรับบริการ หากผู้ให้บริการมิได้แจ้งให้ทราบถึงระยะเวลาดังกล่าว เป็นหน้าที่ของผู้รับบริการที่จะทวงถามเพื่อทราบถึงระยะเวลาดังกล่าว

ข้อ 5 การบอกเลิกงานและนโยบายการคืนเงิน

  1. การบอกเลิกงานโดยผู้ให้บริการ
    1. ในกรณีที่ผู้รับบริการได้ยืนยันคำสั่งผลิต และ/หรือ ออกแบบผลงาน แก่ผู้ให้บริการแล้ว หากผู้ให้บริการบอกเลิกงานผู้รับบริการ และผู้ให้บริการยังมิได้เริ่มผลิต และ/หรือ ออกแบบผลงานดังกล่าว ผู้ให้บริการต้องคืนเงินตามจำนวนที่ได้รับจากผู้รับบริการเต็มจำนวน
    2. ในกรณีที่ได้เริ่มผลิต และ/หรือ ออกแบบผลงานดังกล่าวไปแล้ว ผู้ให้บริการอาจประเมินความคืบหน้าของผลงานให้ หรือ ผู้ให้บริการอาจให้ ผู้รับบริการ ร่วมประเมินความคืบหน้าของผลงานก็ได้ ทั้งนี้ความคืบหน้าที่ประเมินนี้ให้คิดเป็นร้อยละ และให้นำความคืบหน้าเป็นร้อยละนี้ไปใช้คิดประเมินราคาจากราคาเต็มที่ผู้รับบริการได้ตกลงกับผู้ให้บริการไว้ และให้ผู้ให้บริการชำระเงินในสัดส่วนที่เหลือจากร้อยละของราคาเต็มของราคาผลงานที่ได้ตกลงไว้ ทั้งนี้หากผู้รับบริการได้ชำระเงินไปน้อยกว่าสัดส่วนของความคืบหน้าของผลงาน ผู้ให้บริการอาจสงวนสิทธิ์พิจารณาไม่คืนเงินก็ได้ ทั้งนี้ผู้ให้บริการอาจพิจารณาชำระเงินคืนทั้งหมดโดยไม่คำนึงถึงความคืบหน้าของงานก็ได้ ในกรณีที่ไม่สามารถตกลงประเมินความคืบหน้าของงานได้ ผู้ให้บริการอาจไม่คืนเงินก็ได้
  2. การบอกเลิกงานโดยผู้รับบริการ
    1. ในกรณีที่ผู้รับบริการได้ยืนยันคำสั่งผลิต และ/หรือ ออกแบบผลงานแก่ผู้ให้บริการแล้ว แม้ผู้ให้บริการยังมิได้เริ่มผลิต และ/หรือ ออกแบบผลงานดังกล่าว ผู้ให้บริการจะคืนเงินร้อยละ 80 ของมูลค่าผลงานให้แก่ผู้รับบริการ หรืออาจคืนเงินเต็มจำนวน ทั้งนี้ให้เป็นดุลยพินิจของผู้ให้บริการ
    2. ในกรณีที่ได้เริ่มผลิต และ/หรือ ออกแบบผลงานดังกล่าวไปแล้ว ผู้ให้บริการอาจประเมินความคืบหน้าของผลงานให้ หรือ ผู้ให้บริการอาจให้ ผู้รับบริการ ร่วมประเมินความคืบหน้าของผลงานก็ได้ ทั้งนี้ความคืบหน้าที่ประเมินนี้ให้คิดเป็นร้อยละ และให้นำความคืบหน้าเป็นร้อยละนี้ไปใช้คิดประเมินราคาจากราคาเต็มที่ผู้รับบริการได้ตกลงกับผู้ให้บริการไว้ ทั้งนี้ให้บวกเพิ่มร้อยละ 20 จากร้อยละของงานที่ทำสำเร็จ ทั้งนี้ผู้ให้บริการอาจสงวนสิทธิ์พิจารณาไม่คืนเงินก็ได้ ในกรณีที่ไม่สามารถตกลงประเมินความคืบหน้าของงานได้ ผู้ให้บริการอาจไม่คืนเงินก็ได้
    3. ในกรณีที่งานเป็นสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ดิจิตอลที่วางขายอยู่ในช่องทางตามข้อ 1 ผู้ให้บริการจะไม่คืนเงินแก่ผู้รับบริการไม่ว่าในกรณีใดทั้งสิ้น
  3. ในกรณีที่ผู้ให้บริการได้ส่งมอบผลงานให้ผู้รับบริการแล้ว ผู้ให้บริการจะไม่คืนเงินแก่ผู้รับบริการในกรณีใด ๆ ทั้งสิ้น

ข้อ 6 นโยบายและเงื่อนไขการชำระเงิน

  1. ผลงานที่มีราคาประเมินต่ำกว่าหรือเท่ากับ 3,000.00 บาท (สามพันบาทถ้วน) ให้ผู้รับบริการต้องชำระเต็มจำนวนในครั้งเดียว
  2. ผลงานที่มีราคาประเมินมากกว่า 3,000.00 บาท (สามพันบาทถ้วน) แต่ไม่มากกว่า 10,000.00 บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) ผู้รับบริการสามารถเลือกชำระแบบแบ่งจ่ายเป็นสองงวดประกอบไปด้วย
    1. งวดแรกเป็นจำนวนเงินไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของมูลค่าผลงานโดยให้ถือเป็นเงินมัดจำ
    2. งวดที่สองส่วนที่เหลือจากส่วนแรก ชำระก่อนรับผลงานที่ทำเสร็จสิ้นแล้ว
  3. ผลงานที่มีราคาประเมินมากกว่า 10,000.00 บาท (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) แต่ไม่เกิน 150,000.00 บาท (หนึ่งแสนห้าหมื่นบาทถ้วน) ผู้รับบริการสามารถเลือกชำระแบบแบ่งจ่ายเป็นงวด โดยต้องไม่เกินสี่งวด ประกอบไปด้วย
    1. งวดแรกเป็นจำนวนเงินไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของมูลค่าผลงานโดยให้ถือเป็นเงินมัดจำ
    2. งวดที่สองเป็นต้นไปอาจชำระแต่ละงวดเท่า ๆ กัน จนครบทุกงวด หรือตามความคืบหน้าของงานซึ่งผู้รับบริการอาจตกลงรายละเอียดกับผู้ให้บริการเป็นรายกรณีไปก็ได้
  4. ผลงานที่มีราคาประเมินมากกว่า 150,000.00 บาท (หนึ่งแสนห้าหมื่นบาทถ้วน) แต่ไม่เกิน 1,000,000.00 บาท (หนึ่งล้านบาทถ้วน) ผู้รับบริการสามารถเลือกชำระเงินแบบแบ่งจ่ายเป็นงวด โดยต้องไม่เกินหกงวด ประกอบไปด้วย
    1. งวดแรกเป็นจำนวนเงินไม่ต่ำกว่าร้อยละ 25 ของมูลค่าผลงานโดยให้ถือเป็นเงินมัดจำ
    2. งวดที่สองเป็นต้นไปอาจชำระแต่ละงวดเท่า ๆ กัน จนครบทุกงวด หรือตามความคืบหน้าของงานซึ่งผู้รับบริการอาจตกลงรายละเอียดกับผู้ให้บริการเป็นรายกรณีไปก็ได้
  5. ผลงานที่มีราคาประเมินมากกว่า 1,000,000.00 บาท (หนึ่งล้านบาทถ้วน) ผู้รับบริการสามารถเลือกชำระเงินแบบแบ่งจ่ายเป็นงวด ทั้งนี้ให้ขึ้นอยู่กับการตกลงกันระหว่างผู้ให้บริการกับผู้รับบริการว่าจะตกลงแบ่งชำระอย่างไร จำนวนกี่งวด และแต่ละงวดด้วยมูลค่าเท่าใด ทั้งนี้ให้ยกเว้นการชำระงวดแรกซึ่งผู้รับบริการต้องชำระผู้ให้บริการอย่างน้อยร้อยละ 17 ของมูลค่าผลงาน
  6. ให้การชำระเงินงวดแรกเป็นเงินประกันความเสียหาย หรือการกระทำผิดของผู้รับบริการตามเงื่อนไขการให้บริการนี้ ในกรณีที่ผู้รับบริการชำระเงินจากผู้รับบริการงวดเดียวให้พิจารณาตามจำนวนเงินงวดแรกที่ผู้รับบริการต้องชำระในกรณีที่ตกลงชำระเป็นงวดเป็นเงินประกัน ในกรณีที่ผลงานที่มีราคาประเมินต่ำกว่าหรือเท่ากับ 3,000.00 บาท (สามพันบาทถ้วน) ให้พิจารณาเงินประกันของผู้รับบริการที่ร้อยละ 50
  7. ทั้งนี้ผู้รับบริการสามารถชำระเงินเต็มจำนวนได้ในทุกกรณี

ข้อ 7 ข้อสงวนสิทธิ์และนโยบายการรับผิดของผู้รับบริการ

  1. ผู้รับบริการไม่ตอบสนองต่อคำถามหรือข้อสงสัยของผู้ให้บริการจนผู้ให้บริการไม่สามารถดำเนินการส่งมอบผลงานหรือปรับปรุงผลงานได้เกินกว่า 30 วัน ผู้ให้บริการมีสิทธิ์บอกเลิกการให้บริการและยึดเงินประกันได้
  2. ผู้ให้บริการไม่สามารถติดต่อผู้รับบริการได้เกินกว่า 30 วัน ผู้ให้บริการมีสิทธิ์บอกเลิกการให้บริการและยึดเงินประกันได้
  3. ทั้งนี้หากผู้รับบริการมีเหตุจำเป็นที่ไม่สามารถอยู่ติดต่อกับผู้ให้บริการได้และได้แจ้งล่วงหน้าไว้แล้ว ผู้ให้บริการจะต้องไม่นำวันที่ผู้รับบริการได้แจ้งให้ทราบไว้แล้วมาพิจารณาตามข้อ (7a) และข้อ (7b)
  4. ผู้รับบริการไม่ชำระเงินแต่ละงวดภายในระยะเวลา 15 วันนับตั้งแต่ได้ทวงถามหรือนับตั้งแต่วันที่ได้ตกลงวันและเวลาในการชำระไว้ ในกรณีที่ได้ตกลงนัดวันชำระเงินแต่ละงวดเอาไว้ ผู้ให้บริการมีสิทธิ์บอกเลิกการให้บริการและยึดเงินประกัน เว้นแต่ได้ตกลงไว้เป็นอย่างอื่น
  5. ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ในการปรับปรุง แก้ไข และดัดแปลงส่วนหนึ่งส่วนใดของเงื่อนไขการให้บริการนี้โดยไม่ต้องแจ้งให้ผู้รับบริการทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ให้บริการอาจแจ้งผ่านทางช่องทางใดช่องทางหนึ่งหรือมากกว่าในข้อ (1) โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ผู้รับบริการทราบในทุกช่องทาง

ข้อ 8 ข้อตกลงในการรับผิดชอบและการบริการหลังการขาย

  1. ผู้ให้บริการจะรับผิดชอบต่อความผิดพลาดที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นความผิดพลาดของผู้ให้บริการต่อผลงานที่ผู้รับบริการได้รับไปหลังการส่งมอบผลงาน ทั้งนี้หากมิได้ระบุตกลงไว้เป็นอย่างอื่น ผู้ให้บริการจะรับผิดชอบเป็นระยะเวลา 6 เดือนนับตั้งแต่ได้รับชำระเงินงวดสุดท้าย
  2. ผู้ให้บริการจะรับผิดชอบต่อความผิดพลาดที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นความผิดพลาดของผู้ให้บริการต่อผลงานที่ผู้รับบริการได้รับไปหลังการส่งมอบผลงานเป็นการแก้ไขผลงานหรือชำระเป็นเงินก็ได้ ทั้งนี้ในกรณีที่ชำระชดเชยเป็นเงินผู้ให้บริการจะไม่ชำระเกินร้อยละ 25 ของวงเงินประกัน

    อย่างไรก็ตามผู้ให้บริการและผู้รับบริการอาจตกลงรับการชดเชยเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่การชำระเงินก็ได้

ข้อ 9 ระยะเวลาในการรังสรรค์ผลงาน

ระยะเวลาในการรังสรรค์ผลงาน ให้เป็นดุลยพินิจของผู้ให้บริการในการประเมินระยะเวลาในการรังสรรค์ผลงาน ทั้งนี้ให้พิจารณาลักษณะของงานและความซับซ้อนของผลงานเป็นสำคัญ

ข้อ 10 การรับชำระเงิน

  1. ในกรณีชำระเงินภายในประเทศ ผู้รับบริการสามารถชำระผ่านทางบัญชีธนาคารในประเทศไทย
  2. ในกรณีชำระเงินจากต่างประเทศ ผู้รับบริการสามารถชำระเงินผ่านทางช่องทางต่อไปนี้
    1. PayPal
    2. Stripe
  3. ในกรณีที่ผู้รับบริการชำระเงินไม่เกิน 10 USD (สิบเหรียญสหรัฐ) ผู้รับบริการต้องชำระค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมแทนผู้ให้บริการเป็นอัตราคงที่จำนวน 1.5 USD (หนึ่งเหรียญห้าสิบเซนต์)
  4. ในกรณีที่ผู้รับบริการชำระเงินมากกว่า 10 USD (สิบเหรียญสหรัฐ) แต่ไม่เกิน 1,000 USD (หนึ่งพันเหรียญสหรัฐ) ผู้รับบริการต้องชำระค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมร้อยละ 10 ของยอดที่ต้องชำระ
  5. ในกรณีที่ผู้รับบริการชำระเงินมากกว่า 1,000 USD (หนึ่งพันเหรียญสหรัฐ) ผู้รับบริการต้องชำระค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมร้อยละ 10 ของยอดที่ต้องชำระ หรืออาจตกลงในอัตราอื่น ทั้งนี้ให้เป็นดุลยพินิจของผู้ให้บริการ
  6. กรณีที่ผู้รับบริการต้องการใบเสร็จหรือใบแจ้งหนี้ที่ต้องออกโดยระบบของ PayPal หรือ Stripe ผู้รับบริการต้องชำระค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมอีก 1 USD (หนึ่งเหรียญสหรัฐ)

ข้อ 11 นโยบายเกี่ยวกับสัญญาอนุญาต (License) และลิขสิทธิ์ (Copyright)

  1. ข้อกำหนดเกี่ยวกับสัญญาอนุญาต
    1. ผู้รับบริการจะได้รับอนุญาตให้ใช้ผลงานตามข้อ (3) จากผู้ให้บริการนั้น ผู้รับบริการจำเป็นจะต้องได้รับสัญญาอนุญาตในการนำผลงานไปใช้เสียก่อน
    2. การได้รับสัญญาอนุญาตจะกระทำได้เมื่อผู้ให้บริการได้ให้สัญญาอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านช่องทางตามข้อ (1) เท่านั้น
    3. ในกรณีที่ผู้รับบริการได้สั่งให้รังสรรค์ และ/หรือ ออกแบบผลงาน และ/หรือ ซื้อผลงานจากช่องทางตามข้อ (1) หรือในกรณีที่ไม่ได้ระบุสิทธิ หรือสัญญาอนุญาตโดยเฉพาะ ผู้รับบริการจะได้รับสัญญาอนุญาตประเภท การนำไปใช้ส่วนตัว (Personal Use) โดยให้เป็นสิทธิสามัญ
    4. การนำผลงานไปใช้ไม่ตรงต่อสัญญาอนุญาตที่ผู้รับบริการได้รับ ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ในการฟ้องร้องทางกฎหมายโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ผู้รับบริการทราบล่วงหน้า
  2. การขอสัญญาอนุญาต
    1. ในการขอสัญญาอนุญาตของผู้รับบริการนั้น ผู้ให้บริการอาจขอสัญญาอนุญาตจากผู้ให้บริการในขณะที่ประเมินราคาผลงาน หรือในภายหลังที่ได้ชำระเงินรับผลงานไปแล้วก็ได้
    2. การขอสัญญาอนุญาตจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากการสั่งผลิต และ/หรือ ออกแบบ และ/หรือ ซื้อผลงานโดยปกติปฏิบัติ ซึ่งผู้ให้บริการสามารถเรียกเก็บจากผู้รับบริการได้ และได้กำหนดอัตราราคาไว้ดังนี้
      1. สัญญาอนุญาตประเภท การนำไปใช้ส่วนตัว (Personal Use) ไม่จำเป็นต้องชำระค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใด ๆ จากอัตราหรือราคาประเมินของผลงาน ณ ขณะที่ผู้รับบริการได้สั่งผลิต และ/หรือ ออกแบบผลงาน
      2. สัญญาอนุญาตประเภท การนำไปใช้เชิงพาณิชย์ก่อให้เกิดรายได้ทางอ้อม (Commercial Use For Indirect Profit) ผู้รับบริการจำเป็นจะต้องชำระค่าสัญญาอนุญาตในอัตราร้อยละ 80 - 275 ของราคาประเมินการผลิต และ/หรือ ออกแบบผลงาน
      3. สัญญาอนุญาตประเภท การนำไปใช้เชิงพาณิชย์ก่อให้เกิดรายได้ทางตรง (Commercial Use For Direct Profit) ผู้รับบริการจำเป็นจะต้องชำระค่าสัญญาอนุญาตในอัตราร้อยละ 150 - 375 ของราคาประเมินการผลิต และ/หรือ ออกแบบผลงาน
      4. อย่างไรก็ตามราคาประเมินของค่าสัญญาอนุญาตเป็นหน้าที่ของผู้รับบริการจะสอบถามผู้ให้บริการถึงอัตราค่าสัญญาอนุญาตที่แท้จริงของผลงานนั้น โดยผู้ให้บริการสามารถกำหนดราคาเท่าใดในช่วงอัตราที่กำหนดไว้ก็ได้ ทั้งนี้ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ที่จะเลือกเก็บค่าสัญญาอนุญาตในอัตราสูงสุดในกรณีที่ผู้รับบริการได้ขอสัญญาอนุญาตภายหลังการชำระค่าผลงานครบถ้วนแล้ว
      5. ผู้รับบริการสามารถตกลงเลือกชำระค่าสัญญาอนุญาตเพิ่มเติมในรูปแบบของค่าสิทธิ์ (Royalty Fees) ในกรณีนี้ผู้รับบริการต้องปฏิบัติตามข้อ (11c)
    3. การชำระค่าสิทธิ์ (Royalty Fees)
      1. ในการตกลงชำระค่าสิทธิ์นั้น ผู้รับบริการจำเป็นจะต้องตกลงเปิดเผยยอดขายผลงาน หรือรายได้อันเกี่ยวเนื่องกับผลงาน ต่อผู้ให้บริการอย่างโปร่งใส และมีรายงานการขายโดยละเอียดให้แก่ผู้ให้บริการ ทั้งนี้เกี่ยวเนื่องกับข้อปฏิบัติการเปิดเผยรายได้อันเกี่ยวเนื่องกับผลงานนั้น ผู้รับบริการต้องปฏิบัติตามข้อ (11c)
      2. สัญญาอนุญาตประเภท การนำไปใช้ส่วนตัว (Personal Use) ไม่จำเป็นต้องชำระค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใด ๆ จากอัตราหรือราคาประเมินของผลงาน ณ ขณะที่ผู้รับบริการได้สั่งผลิต และ/หรือ ออกแบบผลงาน
      3. สัญญาอนุญาตประเภท การนำไปใช้เชิงพาณิชย์ก่อให้เกิดรายได้ทางอ้อม (Commercial Use For Indirect Profit) ผู้รับบริการจำเป็นจะต้องชำระค่าสิทธิ์ในอัตราร้อยละ 0.5 - 3 ของรายได้อันเกิดจากผลงานที่ผู้รับบริการได้สั่งผลิต และ/หรือ ออกแบบ
      4. สัญญาอนุญาตประเภท การนำไปใช้เชิงพาณิชย์ก่อให้เกิดรายได้ทางตรง (Commercial Use For Direct Profit) ผู้รับบริการจำเป็นจะต้องชำระค่าสิทธิ์ในอัตราร้อยละ 1.5 - 5 ของรายได้อันเกิดจากผลงานที่ผู้รับบริการได้สั่งผลิต และ/หรือ ออกแบบ
      5. อย่างไรก็ตามราคาประเมินของค่าสิทธิ์เป็นหน้าที่ของผู้รับบริการจะสอบถามผู้ให้บริการถึงอัตราค่าสัญญาอนุญาตที่แท้จริงของผลงานนั้น โดยผู้ให้บริการสามารถกำหนดราคาเท่าใดในช่วงอัตราที่กำหนดไว้ก็ได้ ทั้งนี้ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ที่จะเลือกเก็บค่าสิทธิ์ในอัตราสูงสุดในกรณีที่ผู้รับบริการได้ขอสัญญาอนุญาตภายหลังการชำระค่าผลงานครบถ้วนแล้ว
      6. ในกรณีที่พบว่า หรือมีเหตุอันสมควรให้สงสัยว่าผู้รับบริการปิดบัง ซ่อนเร้น หรืออำพรางยอดขายผลงาน หรือรายได้อันเกี่ยวเนื่องกับผลงาน หรือแสดงข้อมูลอันเป็นเท็จเกี่ยวกับรายได้อันเกี่ยวเนื่องกับผลงาน ผู้รับบริการยินดีที่จะชดใช้เป็นการชำระเงินในอัตรา 3 เท่าของอัตราที่ต้องชำระในกรณีที่รายได้อันเกี่ยวเนื่องกับผลงานถูกประเมินตามปกติ
  3. ข้อตกลงและข้อปฏิบัติเกี่ยวกับการเปิดเผยยอดขายผลงาน
    1. ผู้รับริการตกลงที่จะเปิดเผยยอดขายผลงานในรายละเอียด ทั้งปริมาณการจำหน่าย ช่องทาง วิธีการ จำหน่าย นำไปใช้งาน หรือนำไปแจกจ่าย รวมทั้งแผนการตลาดเฉพาะส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับผลงานนั้น ต่อผู้ให้บริการเป็นรายกรณี ทั้งนี้ต้องชี้แจงช่องทางการจำหน่าย การนำไปใช้งาน หรือการแจกจ่ายให้ชัดเจน ทั้งยังต้องระบุถึงวิธีการได้มาซึ่งรายได้ และอิทธิพลหรือความเกี่ยวเนื่องของผลงานที่มีต่อการได้รายได้นั้นให้ผู้ให้บริการทราบอย่างชัดเจน
    2. ผู้ให้บริการจะเรียกเก็บค่าสิทธิ์จากผู้รับบริการเป็นรายเดือน หรือรายไตรมาส ทั้งนี้ผู้ให้บริการและผู้รับบริการสามารถตกลงกันได้
    3. ในการชำระค่าสิทธิ์ของผู้รับบริการ ผู้รับบริการมีหน้าที่ที่จะนำส่งค่าสิทธิ์และรายงานเกี่ยวกับรายได้อันเกี่ยวเนื่องกับผลงานต่อผู้ให้บริการ
    4. ผู้รับบริการสามารถตกลงรายละเอียดเพิ่มเติมอื่นใดกับผู้ให้บริการ ทั้งนี้จะต้องกระทำก่อนผู้ให้บริการได้รับชำระเงินค่าสิทธิ์ หรือค่าสัญญาอนุญาตแล้ว
    5. ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ในการเพิกถอนสัญญาอนุญาตของผู้รับบริการ ทั้งนี้เป็นหน้าที่ของผู้ให้บริการในการชี้แจงเหตุผลให้ผู้รับบริการทราบ โดยผู้ให้บริการจะแจ้งให้ผู้รับบริการทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 14 วัน เมื่อสัญญาอนุญาตของผู้รับบริการถูกเพิกถอนสิทธิ์แล้วนั้น ผู้รับจะได้รับเพียงสิทธ์อันเป็นสามัญที่ได้ตกลงไว้ตามข้อ (3a II 1)
    6. ผู้ให้บริการและผู้รับบริการสามารถตกลงเงื่อนไขหรือรายละเอียดที่เกี่ยวข้อกับข้อปฏิบัติการเปิดเผยยอดขายผลงานนี้เพิ่มเติมได้ ทั้งนี้ให้กระทำเป็นลายลักษณ์อักษร
  4. ระยะเวลาและการสิ้นสุดของสัญญาอนุญาต
    1. ผู้รับบริการเมื่อได้รับสัญญาอนุญาตแล้วสัญญาอนุญาตจะมีระยะเวลา 1 ปีนับตั้งแต่ได้รับอนุญาตจากผู้ให้บริการ
    2. เมื่อสัญญาอนุญาตมีอายุครบ 1 ปีแล้วสัญญาอนุญาตจะถูกต่ออายุโดยอัตโนมัติ เว้นแต่ผู้ให้บริการจะแจ้งผู้รับบริการทราบว่าผู้ให้บริการยกเลิกการต่อสัญญาอนุญาตดังกล่าวผ่านช่องทางตามข้อ (1) หรือแจ้งให้ผู้รับบริการทราบเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านช่องทางอื่นใดเพื่อบอกเลิกสัญญาอนุญาตนั้น

ข้อ 12 การตลาด การปฏิเสธความรับผิดชอบ และข้อสงวนสิทธิ์ของผู้ให้บริการในการนำผลงานไปใช้

  1. ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ในการนำผลงานที่ผู้รับบริการได้สั่งผลิต และ/หรือ ออกแบบ ไปใช้ดัดแปลง ปรับปรุง ทำซ้ำ หรือขายต่อ ทั้งนี้ผู้ให้บริการอาจทำเป็นหนังสือ หรือข้อความแจ้งไปยังผู้รับบริการให้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงหรือการนำไปใช้นั้นหรือไม่ก็ได้
  2. ผู้ให้บริการขอสงวนสิทธิ์ในการนำผลงานที่ผู้รับบริการได้สั่งผลิต และ/หรือ ออกแบบ ไปใช้เพื่อจัดแสดงผลงาน นำไปประกอบผลงาน หรือนำไปจัดแสดงเพื่อประโยชน์ทางการค้า หรือประโยชน์อื่นใดของผู้ให้บริการ โดยไม่ต้องแจ้งให้ผู้รับบริการทราบล่วงหน้า
  3. ผู้ให้บริการจะปกป้องผลประโยชน์ของผู้รับบริการซึ่งได้รับสัญญาอนุญาตประเภทต่าง ๆ จากผู้ให้บริการเสมือนประหนึ่งเป็นสิทธิ์และผลประโยชน์ของตน ทั้งนี้ผู้รับบริการจะต้องเป็นธุระจัดหาข้อมูลและหลักฐานที่เกี่ยวข้องของการละเมิดหรือการนำผลงานไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตให้กับผู้ให้บริการทราบ ผู้รับบริการอาจเป็นตัวแทนในการปกป้องผลประโยชน์ดังกล่าวแทนผู้ให้บริการก็ได้ ทั้งนี้ต้องได้รับการยินยอมและแจ้งจากให้ผู้บริการเป็นลายลักษณ์อักษรเสียก่อน
  4. การนำผลงานที่รังสรรค์โดยผู้ให้บริการไปใช้เพื่อประกอบธุรกิจหรือกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย หรือธุรกิจหรือกิจกรรมที่เชื่อได้ว่าเป็นธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ผู้ให้บริการสามารถเพิกถอนสิทธิ์และสัญญาอนุญาตทุกประเภทได้ทันทีโดยไม่ต้องแจ้งให้ผู้รับบริการทราบล่วงหน้า และผู้ให้บริการขอปฏิเสธความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่นำผลงานไปใช้อย่างผิดกฎหมายต่อบุคคลอื่นใด

ข้อ 13 การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection)

การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้รับบริการจะถูกระบุไว้ใน นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)